โควิดสายพันธุ์อินเดีย อาการโควิดสายพันธุ์อินเดีย
โควิด 19 สายพันธุ์อินเดีย
เรียกได้ว่าตอนนี้นอกจากโควิดระลอก 3 แล้ว โควิดสายพันธุ์อินเดียยังมาทวีความรุ่นแรงเข้าไปอีก และก่อนที่มันจะรุนแรงไปมากกว่านี้ วันนี้เรานำข้อมูลเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์อินเดีย มาให้เพื่อนๆ ได้ทราบโดยทั่วกัน
อย่างแรกเลยคือพบสายพันธ์นี้ที่แคมป์คนงานหลักสี่ ซึ่งมีคนงาน 15 คน ซึ่งแสดงอาการโควิดสายพันธุ์อินเดียคือเริ่มมีไข้เพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้อยูในการดูเเลของทีมแพทย์เรียบร้อยเเล้ว แล้วมีอะไรน่ากังวลบ้าง? เกี่ยวกับโควิดสายพันธ์นี้

สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับ โควิดสายพันธุ์อินเดีย
- โควิดสายพันธุ์อินเดีย แพร่กระจายลงสู่หลอดลมลึกและถุงลม ซึ่งต่างไปจากสายพันธุ์เดิม คือ แพร่กระจายในโพรงจมูกและลำคอเท่านั้น
- หากได้รับเชื้อจะติดได้ง่ายมากขึ้น และยังแพร่กระจายได้ง่ายขึ้นด้วย
- เชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียสามารถหลีกหนีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้
- ภูมิคุ้มกันที่เกิดตามธรรมชาติ ไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียได้ และต้องติดตามว่าส่งผลทำให้เกิดการอักเสบที่อันตรายต่อเนื้อเยื่อและทุกระบบของร่างกายมากขึ้น
คำแนะนำจากแพทย์
“จากสถานการณ์การพบผู้ติดโรคโควิด 19 สายพันธุ์อินเดียในประเทศไทยในขณะนี้ ทุกคนควรป้องกันตนเองด้วยการเข้ารับวัคซีน โดยเร็ว เพื่อควบคุมการระบาด มีวินัย และการ์ดไม่ตกทั้งต่อบุคคลและสังคมอย่างเคร่งครัด”
นอกจากนี้ หมอธีระวัฒน์ ระบุอีกว่า ตั้งแต่กลางปี 2564 ต้องระวังสายพันธุ์อินเดีย แพร่จากคนไทยสู่คนไทย เพราะการตรวจหาเชื้อโดยวิธีแหย่จมูก หรือที่เรียกว่า แบบ Swab หรือ RT-PCR อาจไม่แม่นยำ เนื่องจาก..
- เชื้อชอบลงลึกถึงในปอด ทำให้แหย่จมูกไปก็ไม่เจอ
- กระบวนการตรวจ RT-PCR อาจจับได้ไม่หมด เพราะรหัสพันธุกรรมเพี้ยน ดังนั้น ถ้าแพร่ไปอาจมีปัญหากับวัคซีน
ขณะนี้การคัดกรองที่เร็วที่สุด คือ การตรวจเลือดว่าติดเชื้อหรือไม่ เช่น ตรวจด้วย อีไลซา (ELISA) โรงพยาบาลมากมายก็มี และทำง่ายกว่าการแหย่จมูก ถ้าตรวจเลือดเป็นบวกโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็ให้แยกตัวทันทีและกักตัว 14 วัน
ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว และจะเร็วยิ่งขึ้นหากเราช่วยกันด้วยการที่เรานั้นตื่นตัว คอยสังเกตอาการตัวเอง ไม่พาตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยง และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ โควิด 19 อย่างใกล้ชิด
สามารถอ่านเรื่องน่าสนใจอื่นๆได้ที่ : CoolCrewTH
เพจ Facebook : CoolCrew TH