7+1 วิธีเก็บเงินให้อยู่หมัด ป้องกันรายจ่ายปริศณา

เชื่อว่าหลายๆ คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ล้วนต้องเป็นคนที่ต้องการออมเงินอยู่ หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการออมเงินอยู่เเน่ๆ เอาล่ะ ไม่ว่ายังไงจุดหมายของเรานั้นก็ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นก็คือออมเงิน และในบทความนี้เราได้นำวิธีออมเงินต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็น วิธีเก็บเงิน เเละวินัยในการออมมากกว่า แต่ทางเราชื่อว่าเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้รับวิธีไปใช้ในการออมเงินของตัวเองอย่างแน่นอน

1. มองเงินเก็บให้ต่างออกไป

ที่จะบอกก็คือ หลายๆคนนั้นเก็บเงินด้วยการ “รายได้ – รายจ่าย = เงินเก็บ” ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่จะดีกว่าไหม ถ้าหากเรามาใช้เป็น “รายได้ – เงินเก็บ = รายจ่าย” นั่นคือการเราคิดกก่อนว่าจะเก็บเงินเท่าไหร่ แล้วหักเงินออกไปก่อนเลย จากนั้นค่อยจัดสรรว่าจะใช้จ่ายอย่างไรให้ได้ตามงบที่เหลือ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราเห็นเงินเก็บเราชัดเจนกว่าการที่ต้องรอว่าจะมีเงินเหลือจากการใช้เท่าไหร่

2. แบ่งประเภทค่าใช้จ่ายและลำดับความสำคัญให้ชัดเจน

เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้ข้อก่อนหน้านี้เลย เพราะหลายครั้งที่การใช้จ่ายของเราไม่เป็นไปตามงบที่เราตั้งไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการเสียเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นก่อน อย่างเช่นกินของที่อยากกินแต่ลืมไปว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่าย และสำคัญมากกว่า เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น ทำให้พอถึงเวลาที่ต้องจ่ายอาจจะไม่พอ จนสุดท้ายต้องน้ำเงินเก็บที่หักไปในตอนแรกกลับมาใช้อีกอยู่ดี ดังนั้นทางที่ดีควรหักค่าใช้จ่ายสำคัญไว้เป็นอันดับต้นๆ ก่อนเลยจะดีที่สุด

3. จดบันทึกให้เป็นนิสัย

วิธีนี้บอกได้เลยว่าถ้าทำได้จะดีมากๆ เพราะเพื่อนๆเชื่อไหมว่า มีการสำรวจคนไทยซึ่งพบว่ามี “ค่าใช้จ่ายปริศนา” สูงถึง 72% จาก YouGov ในปี 2558 นั่นคือค่าใช้จ่ายที่เราไม่รู้ว่าเราใช้มันไปกับอะไร โดยส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าจะเป็นค่าอาหาร และค่าของจิปาถะอื่นๆ ที่ราคาไม่ได้สูงมาก

โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างนั้นเราสามารถบันทึกไว้ในโทรศัพท์ของเราได้เเล้ว ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ทำให้เรานั้นสามารถบันทึกได้ง่ายยิ่งขึ้น

4. ค่าอาหารลดได้โดยการ เน้นผลิตลดบริโภค

อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเเน่นอนว่า สำหรับบางคนอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงสุดของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็พอมีวิธีแก้อยู่นั่นก็คือ ให้เรานั้นทำอาหารทานเอง : สำหรับครอบครัวที่มีคนหลายคนจัดได้ว่าการทำอาหารกินเองจะสามารถลดราคาอาหารต่อคนลงได้อย่างมาก และสำหรับคนทำงานหรือนักเรียนก็สามารถทำอาหารไปทานอยู่ที่ทำงานหรือโรงเรียนก็ประหยัดไปได้อีกนะ

5. อย่าเห็นแก่เสื้อผ้าราคาถูก

ไม่ได้จะบอกว่าของถูกไม่ดี แต่การที่เราใช้ของที่ราคาถูกจนเกินไปหากเทียบกันเรื่องวัสดุที่ได้กับราคาแน่นอนว่าไม่มีคุณภาพดีเท่าที่ควร ทำให้เราอาจจะต้องซื้อใหม่บ่อยๆ ซึ่งหากรวมๆกันเเล้วอาจจะเสียเงินเยอะกว่าการซื้อเสื้อผ้าดีๆ ซักตัวนึงก็ได้

6. หาอาชีพเสริมที่ถนัดทำที่บ้าน

หากเรานั้นมีเวลาว่างจากการทำงานหรือเรียนเเล้วก็อยากให้เพื่อนๆ ลองหาอะไรที่สร้างรายได้มาทำเป็นงานเสริม เพื่อทำให้เงินออมเรานั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ไปถึงเป้าหมายการออมได้ไว้ยิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 5 อาชีพเสริมทําที่บ้าน

7. หาความบันเทิงง่ายๆ

ลองไม่ไปที่สุ่มเสี่ยงเสียเงิน อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า ที่มีของมาล่อตาล่อใจมากมาย แต่ให้บางวันลองเปลี่ยนมาหาความสุขที่บ้าน อย่างเช่นฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง ทั้งนี้ก็ปรับให้เข้ากับความชอบส่วนตัวได้เลย

8. ใช้กฎ 24 ชั่วโมง ก่อนตัดสินใจซื้อ

ถือเป็นวิธีที่น่าใช้เมื่อเราอยากได้ของที่ราคาแพง ให้เรานั้นอย่าพึ่งซื้อของสิ่งนั้นในทันที แต่รอให้ผ่านไปก่อน 24 ชั่วโมง เเล้วค่อยถามตัวเองอีกทีว่ายังอยากได้หรือมันยังจำเป็นอยู่จริงๆ รึเปล่า หรือลองคำนวณจากเงินรายวันที่ทำงานก็ได้

อย่างเช่น ถ้าอยากได้เสื้อ ราคา 5,000 แต่มีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงาน 22 วันต่อเดือน เท่ากับ 20,000/22 = 909 บาท ดังนั้นการจะซื้อเสื้อตัวนี้เราต้องทำงานแลกทั้งหมด 5.5 วัน 

นอกจาก วิธีเก็บเงิน ด้านบนเเล้ว ยังมีเรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่ CoolCrewTH ให้อ่านเพิ่มเติมด้วยสิ่งที่สำคัญคือต้องมีวินัย และไม่เครียดจนเกินไป อย่าตึงหรือหย่อนมากไป ลองปรับเปลี่ยนวิธีกันดู หวังว่าเพื่อนๆ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการออมเงินของตัวเอง